วันอังคารที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2555

สัมมนารถไฟฟ้าสายตลิ่งชัน-ศิริราช



สัมมนารถไฟฟ้าสายตลิ่งชัน-ศิริราช
เผยแพร่เมื่อ 7 ส.ค. 2012 โดย wootthinan
รองวิศวกรใหญ่ ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง การรถไฟแห่งประเทศไทย
ฮิม ศิริธันยาภรณ์ บอกว่า ขณะนี้ รฟท. เตรียมปรับปรุงสถานีรถไฟชานเมือง
(สายสีแดง) ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช จำนวน 3 สถานี ประกอบด้วยสถานีตลาดน้ำตลิ่งชัน 
สถานีจรัญสนิทวงศ์ และสถานีธนบุรี-ศิริราช ให้มีความทันสมัย เน้นการรับแสงธรรมชาติเพื่อประหยัดพลังงาน 
และมีความสอดคล้องกับเส้นทางรถไฟชานเมืองสายสีแดงช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน โดยมีระยะทางรวม 6.5 กิโลเมตร

โครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดงช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา วงเงิน 779 ล้านบาท

  โครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดงช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา วงเงิน 779 ล้านบาท (รวมวงเงินประกวดราคา งานควบคุมและก่อสร้าง)ขณะนี้ร.ฟ.ท.ออกแบบแล้วเสร็จ พร้อมขอตั้งงบประมาณปี 2556 เพื่อเตรียมการประกวดราคา เช่นเดียวกับช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช วงเงิน 40 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบรายละเอียดเพื่อเตรียมเอกสารการประกวดราคาต่อไป โดยสนข.เร่งติดตามความคืบหน้า 
ที่มา: ร.ฟ.ท.เร่งโครงการระบบราง วันอาทิตย์ที่ 22 กรกฏาคม 2012 เวลา 21:39 น. กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ 

--------------- 
แผ่นพับประชาสัมพันธ์ ชุดที่ 1 (มิถุนายน 2555) 
โครงการสำรวจออกแบบรายละเอียดและจัดทำเอกสารประกวดราคา โครงการระบบรถไฟชานเมือง(สายสีแดง) ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช 
Arrow http://songkhlaline.com/download/Talingchan_Siriraj01.pdf 
ที่มา: เว็บไซต์โครงการ http://sirirajredline.com 

Click on the image for full size 
ที่มา: http://www.skyscrapercity.com/showthread.php?t=1270909

วันอังคารที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ผู้หญิงที่อยากกอดตลอดชีวิต




‎...ผู้หญิงที่อยากกอดตลอดชีวิต..แม่..โดย ศุ บุญเลี้ยง

...ตื่นมาวันวัน ไม่เห็นแม่ทำอะไร
คอยยุ่งแต่ฟืนแต่ไฟ หุงข้าวหาปลา
เก็บทั้งหมอนทั้งมุ้ง ไล่ยุงและป้อนยา
เห็นแต่เล็กแล้วหนา ว่าทำไรในวันวัน

ขัดตะกรงตะแกง ถูขี้คลงขี้ไคล
ก.ไก่ถึงบ.ใบไม้ แม่ให้ท่องพัลวัน
ลูกป่วยจนนอนซม แม่ก็ตรมไม่ต่างกัน
เห็นแต่ครั้งกระนั้น ว่าวันๆ แม่ทำอะไร

* อยากกอดแม่ไว้ให้นานเท่านาน ชั่วกาลปาวสาน
กอดไว้กลางดวงใจ หากใครจะถาม
ว่าแม่ทำอะไร ยิ่งใหญ่เพียงไหน แม่สร้างลูกสร้างคน

กล่อมอยู่บนเปล แล้วสอนให้เดินเป็น
นอนตื่นยังเคี่ยวยังเข็ญ ไม่เห็นแม่ทำอะไร
จะสอบกี่ครั้งกี่หน แม่ก็ค้นตำรามาให้
รู้กันแล้วใช่ไหม ว่าทำอะไรในวันๆ

วันจันทร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2555

รัฐสภาจะจัดงานวันสถาปนารัฐสภา ครบรอบ 80 ปี ในวันพฤหัสบดีที่ 28 มิ.ย. 55

 22 มิ.ย. 55 - รัฐสภาจะจัดพิธีบวงสรวงพระวิญญาณอดีตพระมหากษัตริย์ เนื่องในวันสถาปนารัฐสภา 
ครบรอบ 80 ปี ในวันพฤหัสบดีที่ 28 มิ.ย. 55

รัฐสภาจะจัดงานวันสถาปนารัฐสภา ครบรอบ 80 ปี ในวันพฤหัสบดีที่ 28 มิ.ย. 55 โดยในเวลา 9.09 น. จะทำพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณอดีตพระมหากษัตริย์ และบูชาพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว  และในเวลา 11.00 น. จะเป็นการประกอบพิธีสงฆ์ ในการถวายภัตตาหารเพล แด่พระภิกษุสงฆ์และถวายจตุปัจจัย  จากนั้นจะเป็นพิธีมอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ แก่ข้าราชการสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร   จึงขอประกาศให้ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และพนักงานราชการทราบ เพื่อร่วมพิธีโดยพร้อมเพรียงกัน

วันสถาปนารัฐสภานั้นตรงกับวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2475 ซึ่งถือเป็นวันกำเนิดสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรที่ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อทำหน้าที่เป็นหน่วยงานธุรการ อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภาให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี โดยมีหลวงประดิษฐ์มนูธรรมเป็นเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเป็นคนแรก ในคราวประชุมสภาผู้แทนราษฎรชั่วคราวชุดแรกที่มาจากการแต่งตั้งของคณะราษฎร จำนวน 70 คน




เรณู เขมาปัญญา / ข่าว / เรียบเรียง


วันศุกร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ประกาศกรุงเทพมหานคร: ขอเชิญตวรจดูผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร (ปรับปรุงครั้งที่ 3)



จาก: Jarunee <jarunee@siam-society.org>
วันที่: 25 พฤษภาคม 2555, 15:09
หัวเรื่อง:  ประกาศกรุงเทพมหานคร: ขอเชิญตวรจดูผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร (ปรับปรุงครั้งที่ 3)
ถึง:


 
เรียน ผู้สนใจงานอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
 
ขอเชิญตวรจดูแผนที่ แผนผัง ข้อกำหนด และรายการประกอบแผนผัง ผังเมืองรวมกรมเทพมหานคร (ปรับปรุงครั้งที่ 3)
ตามประกาศกรุงเทพมหานคร
 
 
 
 
 
 



 

วันจันทร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ปูลู..เต่าหางยาวมรดกโลกชิ้นสุดท้าย

 

ปูลู..เต่าหางยาวมรดกโลกชิ้นสุดท้าย

โครงการอนุรักษ์เต่าปูลู...ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านนาดอง ตำบลช่อแฮ จังหวัดแพร่ "หลายชีวิต" มีโอกาสไปเยี่ยมชม แล้วก็พบกับความแปลกของเจ้าเต่าตัวนี้ จึงนำภูมิประวัติชีวิตมานำเสนอ...

เต่าปูลู...เป็นเต่าน้ำจืดกินเนื้อเป็นอาหารชนิดหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Platysternon megacephalum พบในลำธารน้ำตกบนภูเขาสูงหรือป่าดิบชื้นใน ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตอนบนที่ติดกับตอนใต้ของประเทศจีน ตามชายแดนที่ติดกับ ไทย ลาว และ พม่า

...สาเหตุที่แปลกไปจากเต่าทั่วไป กล่าวคือ หัวที่โต ปากงุ้มแหลม เล็บที่ทั้ง 4 ข้างแหลมคมมาก มีหางที่ยาวมาก และ ไม่สามารถหดหัวเข้ากระดองที่เรียวยาวได้ แต่มีคอยาวยื่นออกมาได้มาก...

ส่วนสำคัญ คือ...หาง ซึ่งมีขนาดใหญ่และแข็งแรง มีเกล็ดขนาดใหญ่หุ้มเกล็ดหางด้านบนมี 1 แถว แถวละ 1 เกล็ด เรียงจากโคนหางมีประมาณ 11 ถึง 14 แถว เกล็ดหางด้านล่างแถวที่ 1 ถึง 4 มีสี่เกล็ดจากแถวที่ห้าถึงปลายหางมีแถวละสองเกล็ดบริเวณโคนหางและโคนขาหลัง มีเดือยหนังแหลมยื่นออกมาจำนวนมาก หางของเต่าปูลูยาวมากกว่าความยาวกระดองหลัง...ในอัตราเฉลี่ยเท่ากับ 1:1.34 จึงจัดว่าเป็น...เต่าที่มีหางยาวที่สุดในโลก

...มันเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว อีกทั้งมีความสามารถในการปีนต้นไม้ และก้อนหิน ขามีขนาดใหญ่และแข็งแรง แต่หดเข้าไปอยู่ในกระดองไม่ได้ ขาหน้าและขาหลังของเต่าปูลูมีเกล็ดหุ้มทั้งหมด ตั้งแต่โคนขามีเกล็ดขนาดใหญ่ ฝ่าเท้ามีเกล็ดขนาดเล็กลงมา นิ้วมีเกล็ดหุ้ม มีเล็บแหลมคม ขาหน้ามี 5 นิ้ว ขาหลังมี 4 นิ้ว มีเยื่อพังผืดเล็กน้อยยึดระหว่างนิ้วเกือบถึงโคนเล็บ...

ปูลู...มีนิสัยดุร้าย กินเนื้อ และ ลูกไม้เปลือกแข็งเป็นอาหาร โดย วิธีการฉกงับ ความแตกต่างระหว่างเพศผู้และเพศเมีย คือ ตัวผู้มีหางยาวมากกว่า และรูเปิดก้นของตัวผู้จะอยู่ไปทางปลายหางมากกว่า และตัวผู้จะมีอวัยวะเพศอยู่ภายในรูเปิดก้น

เมื่อยังเล็ก...กระ-ดองจะมีลายสีเหลืองและสีน้ำตาล ส่วนตัวเต็มวัยสีเปลี่ยนไปเป็นสีน้ำตาลเขียวมะกอก ผสมพันธุ์ในน้ำ วางไข่คราวละ 3–5 ฟอง ไข่เปลือกแข็งสีขาว รูปทรงกระบอก หัวท้ายรี ยาวประมาณ 4 เซนติเมตร เชื่อว่ามีอายุยืนได้ถึง 200 ปี...

สถานภาพปัจจุบัน เป็น สัตว์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ เนื่องจากถูกคุกคามถิ่นที่อยู่อาศัย ถูกจับมาปรุงยาสมุนไพร และมีการนำมาเลี้ยงเป็น สัตว์เลี้ยงแต่ไม่ค่อยรอดชีวิต เนื่องจากเป็นเต่าที่อาศัยอยู่ในน้ำที่มีสภาพเป็นลำธารน้ำตกเท่านั้น จึงไม่เหมาะสมที่จะเป็นสัตว์เลี้ยง...!!


ไชยรัตน์  ส้มฉุน

โดย: ไชยรัตน์ ส้มฉุน

15 พฤษภาคม 2555, 05:00 น.


ผ่าวงเสวนา: 'แท็บเล็ตป.1' พ่อแม่ห่วงเด็กก้าวร้าว หวั่นใช้ผิดวิธีเกิดโทษมากกว่าคุณ

 

ผ่าวงเสวนา: 'แท็บเล็ตป.1' พ่อแม่ห่วงเด็กก้าวร้าว หวั่นใช้ผิดวิธีเกิดโทษมากกว่าคุณ

ผ่าวงเสวนา "แท็บเล็ตในมือเด็ก เศษเหล็กหรือตำรา" รมว.ไอซีทีมั่นใจสเปกและราคาเหมาะสม ยกเป็นอุปกรณ์เสริมการเรียนรู้ ขณะที่พ่อแม่ยังกังวลเรื่องเนื้อหา เกรงลูกกลายเป็นคนก้าวร้าว ขณะที่แพทย์แนะตรวจสายตา หวั่น ป.1ใช้แท็บเล็ตผิดวิธี เกิดโทษมากกว่าคุณ...

เมื่อวันที่ 11 พ.ค.ชมรมนักข่าวเทคโนโลยีสารสนเทศ และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จัดเสวนาจิบน้ำชาเรื่อง "Tablet ในมือเด็ก เศษเหล็กหรือตำรา" โดย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า โดยส่วนตัวมองแท็บเล็ตเป็นอุปกรณ์ส่งเสริมการเรียนรู้ที่ดี ในฐานะพ่อของลูก 5 คน รวมถึงผู้เกี่ยวข้องในโครงการ ซึ่งหลายคนอยู่ในฐานะพ่อแม่ ต่างก็มีความห่วงใยและกังวล ตั้งแต่สเปกหรือราคาและการใช้งาน สำหรับการกระจายแท็บเล็ตในโครงการคอมพิวเตอร์มือถือสำหรับนักเรียนทุกคน (One Tablet PC Per Child) จากนี้จะเป็นขั้นตอนของกระทรวงศึกษาธิการ ที่จะทยอยส่งมอบอุปกรณ์ให้แก่นักเรียนชั้น ป.1 ทุกคนในโรงเรียนทั่วประเทศ

รมว.ไอซีที กล่าวอีกว่า เบื้องต้นการใช้แท็บเล็ตประกอบการเรียนการสอนนี้มีรูปแบบเป็นออฟไลน์ ทำให้สามารถควบคุมการเข้าถึงเนื้อหาของเด็กได้ในระดับหนึ่ง สำหรับนักเรียนในระดับชั้นอื่นๆ รัฐบาลก็มีการจัดสรรงบเพื่อใช้ในโครงการประเภทเดียวกันนี้ แต่จะอยู่ในส่วนของงบประมาณปี 2556 ซึ่งต้องรอการพิจารณาอนุมัติในอนาคต ส่วนเนื้อหาของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่ใช้สำหรับแท็บเล็ตนักเรียนป.1 นี้ สามารถเข้าชมได้จากเว็บไซต์เด็กไทยดอทเน็ต (www.dekthai.net)

ด้าน นางนันท์นภัส ตันทะอธิพานิช ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนราชวินิต กรุงเทพฯ กล่าวว่า ได้เริ่มใช้แท็บเล็ตในโครงการดังกล่าวในฐานะโรงเรียนนำร่อง ตั้งแต่ช่วงกลางเดือน ม.ค.-มี.ค.ที่ผ่านมา โดยจากการใช้งานรู้สึกว่าแท็บเล็ตมีประโยชน์ ทั้งยังช่วยให้การเรียนการสอนง่ายขึ้น ทำให้เด็กตื่นตัวในการเรียนและรู้สึกสนุกสนานขึ้นด้วย เนื่องจากเป็นครูประจำชั้น ป.1 จึงมีโอกาสสอนเด็กในทั้ง 5 กลุ่มวิชาหลัก ทั้งคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และสังคมศาสตร์ ซึ่งจะเลือกจากเนื้อหากว่า 300 หัวข้อ ของสพฐ.

นางนันท์นภัส กล่าวต่อว่า ก่อนเข้ารับการอบรมการใช้งานก็มีความกังวล โดยเฉพาะด้านการดูแลรักษาเครื่อง เนื่องจากค่อนข้างเป็นเด็กเล็ก ในชั้นเรียนก็จะมีการสร้างข้อตกลงร่วมกันว่าห้ามเปิดไปที่ส่วนอื่นนอกเหนือจากที่เรียนอยู่ ซึ่งเด็กๆ ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ยังมีความกังวลในการใช้งานแท็บเล็ตเกี่ยวกับการพัฒนาและการยอมรับเทคโนโลยีที่ครูต้องปรับตัว การปลูกจริยธรรมให้เด็กมีความพร้อมในการใช้งาน ผู้ปกครองควรให้เวลาและดูแลการใช้งานของเด็กอย่างใกล้ชิด ขณะที่แอพพลิเคชั่นและเนื้อหาควรใช้งาน เข้าใจได้ง่าย

นายวสันต์ ลิ่วลมไพศาล ผู้ร่วมก่อตั้งบล็อกนัน (http://blognone.com) กล่าวว่า หากมองในมุมฮาร์ดแวร์เชื่อว่าสเปกของเครื่องหน้าจอ 7 นิ้ว แรม 1GB เมมโมรี่ 8GB ดูอัลคอร์ ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 4 ถือว่าเพียงพอและสามารถใช้เพื่อเป็นอุปกรณ์เสริมในการศึกษาได้ ความกังวลเกี่ยวกับการใช้งานที่อาจส่งผลให้เครื่องได้รับความเสียหาย ได้แก่ การตกหล่น และการตั้งค่าใช้งานไม่ถูกต้อง

นางศรีดา ตันทะอธิพานิช ประธานเครือข่ายผู้ปกครองออนไลน์ กล่าวว่า ผู้ปกครองจำนวนมากได้แต่ติดตามรายละเอียดผ่านข่าวซึ่งทำให้ไม่เข้าใจกระบวนการทั้งหมดอย่างถูกต้อง ยอมรับว่าค่อนข้างมีความกังวลทั้งด้านนโยบายและการใช้งานอื่นๆ ทั้งการบำรุงรักษาและคอนเทนต์

"ไม่รู้ว่าอะไรจะเข้ามาอยู่ในมือของลูกเรา ไม่รู้ว่าต้องปรับและเตรียมตัวอย่างไร อยากให้มีความชัดเจนเพื่อจะได้ติดตามและเตรียมตัวได้ถูก เชื่อว่าทุกคนก็อยากให้ลูกได้มีโอกาสใช้งานแท็บเล็ต แต่ต้องยอมรับว่าบางรายอยากได้เพราะเป็นของแจก ของฟรีหรือเปล่า เมื่อได้ไปใช้งานแล้วก็ควรแนะนำให้ความรู้ลูกหลานได้ นอกจากนี้ก็เป็นห่วงว่าเด็กจะเบื่อเร็วหรือเกิดปัญหาความก้าวร้าว เพราะสามารถเล่นอยู่กับแท็บเล็ตได้ทั้งวันโดยที่ไม่ต้องทำกิจกรรมอื่น"

ขณะที่ พ.ท.นพ.ยุทธพงษ์ อิ่มสุวรรณ เลขาธิการราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งานแท็บเล็ตนั้น อาจมีผลกระทบต่อสายตาได้มากที่สุด แต่อยากแนะนำให้ผู้ปกครองพาบุตรหลานไปตรวจสุขภาพตา เพื่อตรวจเช็กก่อนการใช้งาน เพราะเด็กบางคนอาจมีปัญหาเกี่ยวกับสายตาอยู่แล้ว การใช้งานแท็บเล็ตในสภาพแวดล้อมและระยะเวลาที่เหมาะสมก็อาจไม่ได้เป็นปัจจัยให้เกิดปัญหาด้านสายตา

"คำแนะนำคือไม่ควรจ้องมองหน้าจอเป็นเวลานานเกินไป ควรพักสายตาทุก 1 ชั่วโมง ควรกะพริบตาหรือปรับไปมองระยะไกลบ้าง เพื่อให้มีการกะพริบตา ลดอาการแสบตา ตาแห้ง หรือน้ำตาไหลได้"

 

โดย: ทีมข่าวไอทีออนไลน์

11 พฤษภาคม 2555, 19:30 น.