วันพุธที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

< บังคมใช้แล้ว!! > ค่าโทร.มือถือไม่เกินนาทีละ 1 บาท PROเก่าห้ามขยายเวลาเกิน 31 ธ.ค.55 ต้องแจ้งก่อน 30วัน

< บังคมใช้แล้ว!! > ค่าโทร.มือถือไม่เกินนาทีละ 1 บาท PROเก่าห้ามขยายเวลาเกิน 31 ธ.ค.55 ต้องแจ้งก่อน 30วัน


ประเด็นหลัก

ทั้งนี้ผลบังคับใช้ประกาศดังกล่าวทำให้ผู้บริโภคได้ประโยชน์ถึง 3 เรื่องได้แก่ 
1.ทำให้ผู้บริโภคได้ใช้บริการในราคาที่เป็นธรรม เนื่องจากต้นทุนการให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือไม่เกินนาทีละ 1 บาท ดังนั้นผู้ประกอบการไม่ควรค้ากำไรเกินควร 
2.ทำให้ค่า IC (ค่าเชื่อมโยงโครงข่าย) มีอัตราถูกลงและต่ำกว่า 50 สตางค์/นาที ซึ่งบริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือต้องไปหารือกันเพื่อกำหนดอัตราค่า IC ใหม่ ส่งผลให้ค่าบริการที่ผู้บริโภคต้องจ่ายถูกลงตามไปด้วย

นอกจากนี้ 
3.ผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือแบบเติมเงินจะได้ใช้ค่าบริการในอัตราที่ถูกลง จากเดิมที่ผู้ให้บริการกำหนดค่าบริการประมาณนาทีละ 2 บาท เพื่อให้มีวันหมดอายุอยู่ได้ 1 ปี แต่เมื่อประกาศดังกล่าวบังคับใช้จะส่งผลให้ผู้ใช้บริการมือถือเติมเงินได้ใช้ค่าบริการในอัตราค่าโทร.นาทีละไม่เกิน 99 สตางค์เช่นเดียวกัน

นอกจากการกำหนดค่าบริการขั้นสูงแล้ว กสทช.จะเจรจากับผู้ให้บริการทุกราย ให้ลดค่าบริการส่งข้อความสั้น หรือเอสเอ็มเอส ที่ปัจจุบันคิดในอัตรา 1-3 บาท แต่ต้นทุนจริงๆ อยู่ที่ 10 สตางค์เท่านั้น 

แต่ก่อนที่ผู้ให้บริการจะเรียกเก็บค่าบริการอัตราค่าบริการใหม่ จะต้องแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบเป็นการทั่วไปล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน ตามเงื่อนไขหรือวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด
________________________________________________________

ผู้บริโภคเฮ..! ค่าโทร.มือถือไม่เกินนาทีละ 1 บาท


กสทช.ประกาศใช้แล้วอัตราขั้นสูงค่าบริการโทรศัพท์มือถือห้ามเกินนาทีละ 99 สตางค์มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. 55 ส่วนโปรโมชั่นที่มีค่าบริการเกินแต่ออกก่อนหน้านี้ห้ามขยายเวลาเกิน 31 ธ.ค.55 นี้เช่นกัน

น.พ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคมกล่าวว่า ประกาศ กสทช. เรื่อง อัตราขั้นสูงของค่าบริการโทรคมนาคมสำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ประเภทเสียงภายในประเทศ พ.ศ.2555 เกี่ยวกับการกำหนดให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เก็บค่าโทรศัพท์จากผู้ใช้บริการได้ในอัตรานาทีละไม่เกิน 99 สตางค์ ได้ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.55 ภายหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษาเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้สาระสำคัญของประกาศดังกล่าว คือการบังคับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่อยู่ในตลาดลดค่าบริการลงเหลือนาทีละไม่เกิน 99 สตางค์ 

เนื่องจากปัจจุบันผู้ให้บริการต่างมีจำนวนลูกค้าเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลโดยตรงให้ราคาต้นทุนค่าบริการถูกลงกว่าในอดีต และยังส่งผลให้ผู้ให้บริการรายเล็กต้องแข่งขันเรื่องของราคาเช่นกันประโยชน์จึงตกอยู่กับผู้บริโภคหรือผู้ใช้บริการนั่นเอง

ขณะที่โปรโมชั่นที่ผู้ให้บริการออกมาก่อนที่ประกาศจะบังคับใช้ผู้ให้บริการสามารถเรียกเก็บค่าบริการตามสัญญาที่ได้ทำไว้กับผู้ใช้บริการต่อไปจนกว่าสัญญาดังกล่าวจะสิ้นสุดลง หรือต้องไม่เกินวันที่ 31 ธ.ค. 2555 อีกทั้งโปรโมชั่นดังกล่าวที่มีราคาค่าบริการเกินนาทีละ 99 สตางห์นั้นห้ามขยายระยะเวลาของสัญญาหรือรายการส่งเสริมการขายที่มีอยู่ก่อนวันที่ประกาศฉบับนี้ใช้บังคับ

ทั้งนี้ผลบังคับใช้ประกาศดังกล่าวทำให้ผู้บริโภคได้ประโยชน์ถึง 3 เรื่องได้แก่ 
1.ทำให้ผู้บริโภคได้ใช้บริการในราคาที่เป็นธรรม เนื่องจากต้นทุนการให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือไม่เกินนาทีละ 1 บาท ดังนั้นผู้ประกอบการไม่ควรค้ากำไรเกินควร 
2.ทำให้ค่า IC (ค่าเชื่อมโยงโครงข่าย) มีอัตราถูกลงและต่ำกว่า 50 สตางค์/นาที ซึ่งบริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือต้องไปหารือกันเพื่อกำหนดอัตราค่า IC ใหม่ ส่งผลให้ค่าบริการที่ผู้บริโภคต้องจ่ายถูกลงตามไปด้วย

นอกจากนี้ 3.ผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือแบบเติมเงินจะได้ใช้ค่าบริการในอัตราที่ถูกลง จากเดิมที่ผู้ให้บริการกำหนดค่าบริการประมาณนาทีละ 2 บาท เพื่อให้มีวันหมดอายุอยู่ได้ 1 ปี แต่เมื่อประกาศดังกล่าวบังคับใช้จะส่งผลให้ผู้ใช้บริการมือถือเติมเงินได้ใช้ค่าบริการในอัตราค่าโทร.นาทีละไม่เกิน 99 สตางค์เช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ประเทศไทยมีผู้ใช้โทรศัพท์มือถือกว่า 70 ล้านเลขหมาย แบ่งเป็นบริการเติมเงิน(พรีเพด) 63.4 ล้านเลขหมาย คิดเป็น 89.78% และรายเดือน (โพสต์เพด) จำนวน 7.22 ล้านเลขหมาย คิดเป็น 10.22%


ASTV ผู้จัดการ
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9550000042756

___________________________________________________



กสทช.เล็งลดค่าบริการ 3 จีเหลือ 99 สต. 


นายแพทย์ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. บอกว่า มีความเป็นไปได้สูงที่จะกำหนดค่าบริการขั้นสูงที่ 99 สตางค์ สำหรับค่าบริการ3จี ที่จะเปิดประมูลใบอนุญาตให้บริการหรือไลเซนส์ บนคลื่นความถี่2.1 กิกะเฮิรตซ์ เนื่องจากการกำหนดค่าบริการดังกล่าวจะถูกบรรจุในเงื่อนไขประมูลไลเซนส์และกสทช.จะกำหนดราคาประมูลที่ไม่สูงมาก เพื่อให้ผู้ให้บริการไม่ต้องมีต้นทุนสูงและสามารถคิดค่าบริการกับผู้ใช้ตามราคาที่กำหนดได้

นอกจากการกำหนดค่าบริการขั้นสูงแล้ว กสทช.จะเจรจากับผู้ให้บริการทุกราย ให้ลดค่าบริการส่งข้อความสั้น หรือเอสเอ็มเอส ที่ปัจจุบันคิดในอัตรา 1-3 บาท แต่ต้นทุนจริงๆ อยู่ที่ 10 สตางค์เท่านั้น 

moneychannel
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/Moneylinenews/tabid/89/newsid491/177580/Default.aspx

____________________________________________________

________________________________________________________

คุมค่าโทรมือถือไม่เกินนาทีละ 1 บาทเริ่มแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) เรื่อง อัตราขั้นสูงของค่าบริการโทรคมนาคมสำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ประเภทเสียงภายในประเทศ พ.ศ.2555 เกี่ยวกับการกำหนดให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เก็บค่าโทรศัพท์จากผู้ใช้บริการได้ในอัตรานาทีละไม่เกิน 99 สตางค์ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา และมีผลบังคับใช้แล้ววานนี้ (3 เม.ย.) 

สาระสำคัญของประกาศฉบับดังกล่าว คือ การกำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม แบบที่สาม และให้หมายรวมถึงผู้ได้รับอนุญาต สัมปทาน หรือสัญญาให้ประกอบกิจการโทรคมนาคมจากบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) หรือบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) อยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544 ใช้บังคับ คิดค่าบริการแก่ผู้ใช้บริการไม่เกินอัตรา 99 สตางค์ต่อนาที 

หากผู้ให้บริการรายใดจะเปลี่ยนแปลงอัตราค่าบริการที่เกินกว่าอัตราขั้นสูงของค่าบริการที่กำหนด ให้ผู้รับใบอนุญาตรายนั้นยื่นคำขออนุญาตเพื่อให้กสทช.พิจารณา พร้อมยื่นเอกสารและหลักฐาน เพื่อประกอบการพิจารณา และหากกสทช.เห็นชอบกับการเปลี่ยนแปลงอัตราค่าบริการที่เกินกว่าอัตราขั้นสูงของค่าบริการให้ถือว่าอัตราค่าบริการที่ได้รับความเห็นชอบดังกล่าว เป็นอัตราขั้นสูงของค่าบริการ 

แต่ก่อนที่ผู้ให้บริการจะเรียกเก็บค่าบริการอัตราค่าบริการใหม่ จะต้องแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบเป็นการทั่วไปล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน ตามเงื่อนไขหรือวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด

นอกจากนี้ยังกำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตที่กำหนดอัตราค่าบริการเกินกว่าอัตราขั้นสูงของค่าบริการ ที่กำหนด สามารถเรียกเก็บค่าบริการตามสัญญาที่ได้ทำไว้กับผู้ใช้บริการนั้นต่อไปจนกว่าสัญญาดังกล่าวจะสิ้นสุดลง แต่ทั้งนี้ต้องไม่เกินวันที่ 31 ธ.ค. 2555 และห้ามมิให้ผู้รับใบอนุญาตทำการขยายระยะเวลาของสัญญาหรือรายการส่งเสริมการขายที่มีอยู่ก่อนวันที่ประกาศฉบับนี้ใช้บังคับ

กรุงเทพธุรกิจ
http://goo.gl/EJhS7

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น